เกษตรแสงสัมพันธ์

ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

>สาว อำ น า จ เจริญ อายุแค่ 25 ปี หันมมาทำเกษตรผสมผสาน รายได้หลายทาง ได้อยู่กับคนที่รัก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาชีพทางการเกษตรกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เห็นตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยบางรายถึงกับทิ้งเงินเดือนสูงๆ เพื่อกลับมาอยู่บ้านเกิด ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก ได้อยู่กับครอบครัว แม้บางคนเงินที่ได้รับอาจจะไม่มากเท่าตอนเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ตาม แต่การที่ได้อยู่กับคนที่รัก มันก็มีค่ามหาศาลจนประเมินค่าแทบไม่ได้
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2561 ก็ได้มีการเดินทางไปสัมภาษณ์บุคคลท่านหนึ่ง(อ้างอิงเทคโนโลยีชาวบ้าน)
คุณวัชรีญา มณีรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่ 6 ตำบลเสนางคนิคม อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นเกษตรกรที่มีอายุเพียง 25 ปี โดยเธอได้หันหลังให้กับเมืองใหญ่ เพื่อมาทำการเลี้ยงปศุสัตว์ที่ควบคู่ไปกับการทำเกษตรผสมผสาน
คุณวัชรีญา เล่าให้ฟังว่า เมื่อได้เรียนจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี จึงได้หางานในบริษัทเอกชนทำได้สักระยะหนึ่ง ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ชอบงานทางด้านนี้ จึงได้ปรึกษากับทางครอบครัวว่าอยากจะกลับมาอยู่บ้าน เพื่อหางานอย่างอื่นทำเพื่อสร้างรายได้ โดยทำอาชีพทางด้านเกษตรกรรม
เธอกล่าวว่า “ช่วงนั้นเราก็มีการศึกษาหาข้อมูลอยู่บ้าง ในเรื่องของเกษตร ว่าจะทำอะไรดีที่สามารถมีรายได้หมุนเวียนตลอด จึงได้แนวความคิดว่าน่าจะทำเกี่ยวกับปศุสัตว์ และปลูกพืชไปพร้อมๆ กัน ก็เลยนำเงินเก็บที่ได้จากการทำงานในช่วงแรกมาทำการลงทุน” คุณวัชรีญา เล่าถึงที่มา
โดยพื้นที่ภายในบ้านจะแบ่งเป็นโซนสำหรับเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผักสวนครัว แปลงไม้ผล ตลอดไปจนถึงปลูกหญ้าเนเปียร์ที่ใช้สำหรับเลี้ยงโคเนื้อ และที่สำคัญหมู เป็ด และไก่ที่เลี้ยงยังสร้างรายได้ให้กับเธอได้อีกไม่น้อยทีเดียว
“ตอนนั้นก็นำเงินทุนที่ได้จากทำงานมาค่อยๆ ลงทุน โดยที่ยังไม่ได้ลงทุนทีเดียวทั้งหมด ขั้นแรกก็มีซื้อโคเนื้อมาเลี้ยง เพราะมองว่าสามารถผลิตลูกโคให้เราได้ จากนั้นเราก็ขายไป พอมีรายได้เข้ามาเราก็ทำอย่างอื่นไปด้วย ก็จะเป็นรายได้ทดแทนกันไป
อาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงโคให้เจริญเติบโต เธอบอกว่ามีการแบ่งพื้นที่ปลูกหญ้าเนเปียร์ไว้เอง โดยจะตัดและนำมาเข้าเครื่องสับให้โคกินได้ทุกวัน
“การดูแล รั ก ษ า โ ร ค ของสัตว์ ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก หาข้อมูลได้จากปศุสัตว์ที่เราติดต่อไว้ ถึงเวลาก็จะมีการมาดำเนินการให้ ส่วนเป็ด ไก่ หมู ก็ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้เท่าไร เพราะพื้นที่เลี้ยงส่วนใหญ่เป็นสวน เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างธรรมชาติ อากาศถ่ายเทได้สะดวก ดังนั้น สัตว์ถึงสามารถอยู่ได้และมีความแข็งแรง”
ซึ่งการทำรายได้ของเธอไม่ได้เป็นปัญหา เพราะนอกจากการทำปศุสัตว์แล้วยังมีการทำเกษตรผสมผสาน เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว และไม้ผลเข้ามาช่วย พืชผักสวนครัวที่ปลูกอยู่รอบบริเวณบ้านสามารถเก็บผลผลิตไปจำหน่ายได้ทุกวัน โดยได้เงินขั้นต่ำวันละ 300 บาท
ส่วนรายได้เป็นรายปีที่สามารถเป็นเงินเก็บ คุณวัชรีญา บอกว่า เป็นเงินที่ได้จากการจำหน่ายโคเนื้อ โดยที่ไม่ต้องนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายอะไรก็สามารถเป็นเงินเก็บได้ พร้อมยังบอกอีกว่าเป็นเงินก้อนที่สามารถเก็บและนำไปใช้หนี้ได้จริง
“ลูกโคนี่พออายุได้ประมาณ 1 ปี เราก็สามารถขายได้เงินเป็นหลักหมื่นบาท มีกี่ตัวเราก็ขายได้ตามจำนวนนั้น ซึ่งเงินที่ได้จากรายปีนี่ถือว่าดีมาก เพราะเราทำเงินได้เป็นก้อน สามารถนำไปเก็บหรือชำระหนี้ได้ จึงถือว่าเรามาถูกทางแล้ว ที่มาทำงานด้านเกษตรผสมผสาน สามารถสร้างเงินได้จริง ซึ่งอาหารที่ให้โคให้ไก่ให้เป็ดกิน ก็ปลูกเองรอบบ้านได้
เช่น หญ้าเนเปียร์ ก็ทำให้เราประหยัดต้นทุนไปได้อีก ดังนั้น เกษตรคืองานที่ทำแล้วไม่ได้มีรายได้อย่างเดียว ยังมีความสุขด้วย ” คุณวัชรีญา บอก
ซึ่ง ณ เวลานี้อาชีพทางการเกษตร เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขมาก โดยได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว ซึ่งการทำงานในแต่ละวัน เธอเป็นผู้กำหนดเวลาการทำงานเอง ว่าจะทำอะไรบ้างในแต่ละวัน จึงทำให้รู้สึกมีความสุขในการได้เป็นนายของตัวเอง และที่สำคัญได้อยู่กับธรรมชาติกับสภาพแวดล้อมที่ดี
เธอถึงกับบอกว่าทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีตามไปด้วย ได้อยู่ดูแลคนที่เธอรักอย่างใกล้ชิดโดยที่ไม่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน
“ไม่เสียใจที่เราอายุเพียง 25 ปี แล้วมาทำเกษตร เพราะมองว่ายิ่งทำแล้วยิ่งมีความสุข อนาคตก็มองว่า ถ้าสามารถขยับขยายอะไรไปได้ ก็จะทำโคขุน เพราะสามารถทำรายได้ดี และถ้างานเกษตรอื่นๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้อีกก็จะพัฒนาต่อไป
เพราะเกษตรผสมผสานเป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยที่ไม่ต้องปลูกพืชเชิงเดียวจำนวนมากๆ เราก็สามารถมีผลผลิตขายได้หลากหลายชนิด หลากหลายราคา ซึ่งที่นี่ก็เป็นแหล่งเรียนรู้ ใครที่สนใจก็เข้ามาศึกษาได้ ยินดีให้คำแนะนำในเรื่องที่พอเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำเป็นอาชีพต่อไป” คุณวัชรีญา กล่าวแนะนำ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวัชรีญา มณีรัตน์ หมายเลขโทรศัพท์ (089) 874-7266
ที่มา อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://lovedara.com/02/07/2019/20504/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น