เกษตรแสงสัมพันธ์

ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562

>เชื่อลุงเลย! 1 ไร่ ได้ 6 แสน ต่อปี และถ้า 10 ไร่ละ 6 ล้าน และ ทำเกษตรรายได้ไร่ละ ๕๐ ล้านต่อปี แถมเหนื่อยน้อย

เชื่อลุงเลย! 1 ไร่ ได้ 6 แสน ต่อปี และถ้า 10 ไร่ละ 6 ล้าน และ ทำเกษตรรายได้ไร่ละ ๕๐ ล้านต่อปี แถมเหนื่อยน้อย

เชื่อลุงเลย! 1 ไร่ ได้ 6 แสน ต่อปี และถ้า 10 ไร่ละ 6 ล้าน ทำแค่นี้เอง เศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ
เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ประทีป มายิ้ม เกษตรกรเจ้าของ ศูนย์การเรียนรู้ชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สวนพออยู่พอกิน บ้านมายิ้ม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พื้นที่แค่ 1 ไร่ ปีหนึ่งๆทำเงินได้หลายแสนด้วยหลักการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เต็มที่ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน…ส่วนแรก 4 ตารางวา ทำเป็นพื้นที่ทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ สารกำจัดศัตรูพืช
“ส่วนที่ 2 ปลูกพืชแบบเศรษฐกิจพอเพียง ยึด 10 เมนูยอดนิยมครัวไทยต้องใช้พืชอะไร ผมก็ปลูกพืชพวกนั้น ข่า ตะไคร้ กระวาน ผักชี ขึ้นฉ่าย ฟักทอง โหระพา กะเพรา พริก มะเขือ มะกรูด มะนาว มะละกอ ฟัก แฟง แตงกวา ปลูกหมด”
แค่มะละกอ 200 ต้น ประทีป บอกว่า เก็บผลขายได้ทุกวัน วันละ 20 กก. กก.ละ 15 บาท แล้วไหนวันเว้นวันยังจะได้จากพืชผักทั้งหลายอีกครั้งละพันบาท…แค่นี้ได้แล้วเดือนละ 24,000 บาท…ปีละสองแสนกว่าบาท
ส่วนที่ 3 ใช้เนื้อที่ 2.5 ตารางวา ทำคอกเลี้ยงสัตว์แบ่งครึ่งเลี้ยงเป็ดไข่ 10 ตัว อีกครึ่งเลี้ยงไก่ไข่ 10 ตัว ได้ไข่ทุกวัน มีแม่ค้าข้าวแกงมารับซื้อทุก 3 วัน ได้อีกเดือนละ 1,000 บาท ปีละ 12,000 บาท
ส่วนที่ 4 บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 2 บ่อ…บ่อแรก 2 ตารางวา ขุดไว้เลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาดุก เพาะพันธุ์ขายลูกกับใช้ประโยชน์ไว้กินแมลงศัตรูพืช ได้อาหารให้ปลาดุกฟรีๆ เลี้ยงพ่อพันธุ์ไว้ 20 ตัว แม่พันธุ์ 100 ตัว จะได้ลูกพันธุ์ไปขายตัวละ 1 บาท เดือนละ 10,000 ตัว…ปีหนึ่งเกินแสน
บ่อที่ 2 เนื้อที่ประมาณ 11 ตารางวา ก่ออิฐทำเป็นบ่อเลี้ยง 4 กุ้ง 3 ปลา 2 หอย…4 กุ้ง = กุ้งก้ามแดง-กุ้งก้ามกราม-กุ้งแม่น้ำ-กุ้งฝอย ปล่อยลูกพันธุ์อย่างละ 1 พันตัว…3 ปลา = ปลานิล-ปลาตะเพียน-ปลาคาร์พ…2 หอย = หอยขม-หอยโข่ง
พื้นบ่อเป็นดินเพื่อจะได้ผสมพันธุ์ออกลูกได้ เลี้ยงกันแบบธรรมชาติ อาหารเม็ดอย่าฝันว่าจะได้เงิน ประทีป ใช้แหน สาหร่าย ผักกระเฉด ผักบุ้ง พร้อมกับปลูกข้าวไม่หวังเก็บเกี่ยวไปขาย ต้องการแค่ให้ใบร่วงไปเป็นอาหารสัตว์น้ำเท่านั้นเอง
1 ปี จะได้กุ้งก้ามแดงให้จับขายประมาณ 1.5 แสนบาท…กุ้งก้ามกราม ปีหนึ่งจับได้ 2 หน เป็นเงิน 14,000 บาท…กุ้งแม่น้ำได้ปีละหน 2,400 บาท…จับขายเฉพาะตัวใหญ่ ตัวเล็กเก็บไว้เลี้ยงต่อ โตขึ้นได้ขนาดเมื่อไรถึงขาย แถมยังได้มีโอกาสปล่อยให้จับคู่ผสมพันธุ์ออกลูกหลานให้เราเลี้ยงไปขายได้เรื่อยๆ ไม่รู้จบ
ปลาตะเพียน 10 ตัว ไม่ได้หวังขาย เลี้ยงไว้เพื่อตรวจวัดคุณภาพน้ำ เช้าขึ้นมาปลาตะเพียนลอยหัว ถึงคราวเปลี่ยนน้ำ…ปลานิลเลี้ยงไว้ 10 คู่ ออกลูกหลานมาให้จับขายปีละ 3 หน หนละ 20 กก. ปีหนึ่ง 2,400 บาท ส่วนปลาคาร์พ ซื้อลูกปลาตัวละ 5 บาท มาเลี้ยง 4-5 เดือน เอาไปขายร้านปลาสวยงามได้ตัวละ 80 บาท
หอยขมและหอยโข่ง เลี้ยงไว้ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกก้นบ่อ ปล่อยลูกพันธุ์อย่างละ 1-2 กก. เลี้ยงจนโตออกลูกออกหลาน สามารถจับขายได้ทุกสัปดาห์ หอยขมได้ 200 บาท หอยโข่ง 300 บาท…ปีละ 26,000 บาท
รวมแล้วพื้นที่ 1 ไร่ ประทีปทำเงินได้…ปีละไม่ต่ำกว่า 6 แสนบาท.

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทำเกษตรรายได้ไร่ละ ๕๐ ล้านต่อปี แถมเหนื่อยน้อย
วันนี้เขาจุดประกาย ทำนาไร่ละแสน  ฮือฮากันไปทั้งประเทศ  แต่ผมเสนอมาก่อนหน้านันหลายปีไปแล้วว่า ทำไร่ละ ๑ ล้านก็ยังได้  โดยไม่ต้องทำนาให้เหนื่อยยากด้วยซ้ำไป (บทความส่วนตัว) 
ต่อมาอีกปีผมเสนอไร่ละ ๓ ล้าน 
วันนี้ พศ. ๒๕๕๖  ผมจะมาเสนอไร่ละ ๕๐ ล้าน  เอาให้มันเว่อจนเซ่อกันไปเลย
เศรษฐศาสตร์สวนหมาก
ผมได้เขียนบทความเรื่องเศรษฐศาสตร์สวนหมากไว้นานแล้ว  ซึ่งผมได้เสนอว่าไร่ละล้านบาทต่อปี ไม่น่ายาก แต่วันนี้ ผมจะมาเสนอว่า ไร่ละ ๕๐ ล้าน  ต่อปี  ดูท่าจะเว่อ  แต่ลองอ่านดูนะ
หมากเป็นพืชมหัศจรรย์มาก ๆ  โตไว  กินพื้นที่น้อย ต้นเปลาตรง  สามารถปลูกไร่ละ ๑๖๐๐ ต้นได้สบาย  (บีบมันหน่อย ยิ่งบีบยิ่งดี)   ปลูกสิบปี ได้ไม้โตขนาดลำต้นใหญ่  ๑๒  ซม.  สูง ๑๐ ม.  คำนวณเนื้อไม้ต่อไร่ต่อปีได้ ๑๖ ตันต่อไร่ต่อปี  (ยูคาที่ว่าโตเร็วได้เพียง ๖ ตันต่อไร่ปีเท่านั้น) 
ถ้าเราเอาเนื้อไม้นี้ไปทำเฟอร์นิเจอร์ชั้นดี  ราคากก.ละ ๕๐๐ บาทไม่น่ายาก  เช่น ทำชุดโต๊ะอาหารหกเก้าอี้หนัก ๑๐๐ กก. ราคา ห้าหมื่นบาทเป็นเรื่องปกติในประเทศไทย แต่ถ้าทำดีๆ ส่งนอก ราคา กก.ละ ๒๐๐๐ บาทไม่น่ายากเลย  จากห้าหมื่นเป็น สองแสนบาท ….ดังนั้นไร่หนึ่งจะสร้างรายได้ ได้  ๓๒ล้านต่อไร่ต่อปี 
หรือถ้าเอาไปทำของต่ำๆ เช่น กรอบรูปเล็กๆ หนึ่งกรอบหนักหนึ่งขีด ราคา ๗ เหรียญ us สองร้อยบาท  หนึ่งกิโล ก็ได้ สองพันบาทเหมือนกัน  ตันละ ๒ ล้าน ๑๖ ตัน ก็ ๓๒ ล้าน 
บ้าไปแล้ว ไร่ละ ๓๒ ล้าน  ..อย่าเพิ่งไม่เชื่อ  จนกว่าท่านจะหาเหตุผลมาแย้งได้ .ตามหลัก อ.กาลมสูตร
..ว่าไปแล้ว ไม้หมากนั้น แปลก  สวย  งาม  มันเลื่อม  ทนทาน แข็งแรง  น่าจะแพงกว่านี้อีกสองเท่าด้วยซ้ำไป  ไม้สัก โตช้าชิดซ้าย 
ผลหมาก ๕๐๐ ลูก ลูกละ ๒ บาท (มีคนรับซื้อถึงสวน)  ก็ได้อีกไร่ละ 1.6 ล้าน
กาบหมากเอาไปทำจานชามชีวภาพต้นหนึ่งให้ ๖ กาบต่อปี  หนึ่งกาบเอามาอัดเป็นชามได้สาม ชามละสามบาท รับไปอีก  86,400 บาท
ยัง ยังไม่พอ  ให้ปลูกมันเลือด พันต้นหมากขึ้นไป (มันเลือดมันชอบภูมิอากาศแดดรำไรแบบนี้อยู่แล้วด้วย และมันชอบพันต้นไม้)  หัวมันเลือดใหญ่มากๆ กอหนึ่งได้ ๕๐ กก.  กก.ละ ๑๐ บาท  ดังนั้นไร่หนึ่งได้ อีก ๘ แสนบาท
ยัง ยังไม่พอ ให้เอาถุงเห็ดไปห้อยไว้ ต้นละร้อยถุง เพราะเห็ดชอบอากาศแบบนี้ ร่ม เย็น อุ่น ชื้น ถ้าได้ถุงละ กก.  กก. ละ ๕๐ บาท ก็ได้อีก ๘ ล้านบาท
ยัง ยังไม่พอ  ถ้าเอากล้วยไม้ไปห้อย  ก็ได้อีก  ๕ ล้าน (กล้วยไม้ก็ชอบแดดรำไร ชื้น) 
ยัง ยังไม่พอ  ถ้าเลี้ยงผึ้งให้กินดอกหมาก ดอกกล้วยไม้  ดอกมันเลือด ก็ได้อีกไร่ละ ๑ ล้าน 
รวมทั้งหมด  ….โอยช่วยผมคิดด้วยสิ  คิดในใจไม่ทัน 
แล้วจะโง่ทำนากันให้เป็นกระดูกสันหลังผุๆ ของชาติ  ให้เขาสนตะพายจ้างไปเดินขบวน เผาบ้านเผาเมืองอีกต่อไปทำไม ปี่น่องเอ๊ย
….คนถางทาง (๖ กพ. ๒๕๕)
ปล.
๑)  นอกจากหมากแล้ว พืชยืนต้น โตไว ใบโปร่ง จำนวนมากก็ทำได้เช่นเดียวกัน  เช่น  เหรียง  เลี่ยน
๒)ไร่ละ ๕๐ ล้านต่อไร่  ถ้าทำสัก ๗๐ ล้านไร่ เท่ากับที่เราทำนา จะได้ gdp  ๓๕๐๐ ล้านล้านบาท  ในขณะที่วันนี้ พศ. ๒๕๕๖ เราได้ gdp ประมาณ ๑๐ ล้านล้านบาท โดยที่ต้องทิ้งลูกเต้าเข้าไปเป็นขี้ข้าต่างชาติตามนิคมอุตสาหกรรมริมทะเล  เพื่อผลิตโตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ นิสสัน โซนี่ ฟอร์ด  พานาโซนิค และ เก้าลอเก้า 
๓)เดนมาร์ครวยที่สุดในโลก  ด้วยฟาร์มโคนม  ส่วนสวีเดนติดกันกลับจนกว่ามากทั้งที่ทำรถ เครื่องบิน  อุตสาหกรรมหนักมากหลาย  เคยสำเหนียกกันบ้างไหม  ท่านพวกวางนโยบายพัฒนาชาติทั้งหลาย
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย คนถางทาง
….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/518732

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น